วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

ประวัติ Nike

          รองเท้าที่เรานิยมสวมใส่ในปัจจุบันนั้น มีหลากหลายยี่ห้อ วันนี้ข้าพเจ้าจึงอยากหยิบยกเอาประวัติของรองเท้า Nike ซึ่งเป็นรองเท้าที่ผู้เขียนชื่นชอบ และเชื่อว่ามีคนหลายๆคนก็ชื่นชอบเช่นเดียวกับผู้เขียน และมีน้อยคนนักที่จะรู้ประวัติความเป็นมาของไอ้เจ้ารองเท้า Nike นี้
ประวัติรองเท้า Nike

          ปัจจุบันคงจะไม่มีที่ไม่รู้จักรองเท้า Nike อย่างแน่นอน รองเท้า Nike เป็นรองเท้ากีฬาอีกแบรนด์ยอดนิยมที่วางขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา Nike ผู้หญิง หรือรองเท้ากีฬา Nike ของผู้ชาย ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก โดยเฉพาะการใส่ออกกำลังกายเป็นต้น โดยมีคู่แข่งรายหลัก ๆ ไม่กี่รายเท่านั้นเช่น รองเท้ากีฬาจาก Adidas, Puma เป็นต้น แต่รู้หรือไม่ว่าประวัติรองเท้าจากทาง Nike นั้นค่อนข้างที่จะยาวนานพอสมควร
          รองเท้าไนกี้ทีเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1948 โดยนายบิลล์ บาวเวอร์แมนซึ่เค้าได้ดำรงตำแหน่งเป็นโค้ชให้กับทางมหาวิทยาลัยโอเรกอน และในช่วงระหว่างปี 1964 – 1970 เขาได้นำทีมที่เขาได้เป็นโค้ชให้เข้าร่วมการแข่งกัน NCAA outdoor championships นอกจากนี้เขายังสามารถนำทีมชาติสหรัฐอเมริกาคว้าถึง 6 เหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิก          ต่อจากนั้นไม่นานเค้าได้บกับนักวิ่งของทางมหาวิทยาลัยโอเรกอนที่ชื่อว่า ฟิล ไนต์ ทั้งสองได้สนทนากันในเรื่องของคุณภาพของรองเท้ากีฬาที่ใช้กันอยู่ ณ เวลานั้น ก่อนที่เวลาในต่อมาประมาณปี 1962 ฟิล ไนต์ได้ทำการค้นคว้าและพบว่ารองเท้ากีฬาที่มีคุณภาพดีนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นของทางสัญชาติญี่ปุ่น และยังเป็นประเทศที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาในราคาถูกกว่าสินค้าจากทางเยอรมันอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่า ณ ตอนนั้นทางด้านเยอรมันคือเจ้าตลาด
          และหลังจากนั้นไม่นานฟิลไนต์ก็ได้ศึกษาจนจบด้านการตลาด (MBA) ซึ่งเขาได้ใช้เวลาในการเดินทางไปรอบโลกและเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น และก็ได้มีโอกาสได้พบกับรองเท้าแบรนด์ดังในประเทศอย่าง Onitsuka Tiger Companyและเขาได้เข้าเจรจาต่อรองให้เข้ามาตีตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขานั่นเอง
          ในครั้งแรกไนต์ได้ชื่อแบรนด์รองเท้าที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นว่า “Blue Ribbon Sports” หรือ BRS เนื่องจากเป็นชื่อเดิมของไนกี้นั่นเอง และได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทกับเพื่อนเก่าอย่างบาวเวอร์แมนในนามว่า BRC Inc. โดยทั้งสองแบ่งหน้าที่ออกเป็นไนต์จะดูแลในด้านการตลาด ส่วนทางบาวเวอร์แมนจะดูแลในด้านการออกแบบและคุณภาพของรองเท้ากีฬา          ในปี 1970 ทางด้านบิลล์ บาวเวอร์แมนนได้ทำการออกแบบและทดลองผลิตรองเท้ากีฬาแบบพื้นยางขึ้น จากเครื่องอบขนมวาฟเฟิลซึ่งเป็นของภรรยาเขา ซึ่งเป็นการทดลองและพลิกโฉมและได้เป็นกาเรปลี่ยนแปลงพื้นรองเท้ากีฬาในที่สุด
          1971 บิล บาวเวอร์แมนได้จัดตั้งบริษัทรองเท้ากีฬาขึ้นอีกครั้งโดยใช้ชื่อว่า Nike Inc. ก่อนที่จะเกิดการขัดแย้งกันทางธุรกิจระหว่าง BRS Inc. และ Onitsuke Tiger ทำให้ในเวลาต่อมาทางด้านบริษัท Nike ได้หันมาผลิตรองเท้าวิ่ง Nike เพื่อต้องการการเจาะกลุ่มกรีฑาในโอลิมปิด และจนแล้วที่สุดทางด้านบริษัท BRS Inc. และ Nike Inc. ได้ร่วมกันเป็นบริษัทเดียวกันในที่สุด
          1984 บริษัทไนกี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จขึ้นอีกก้าวหนึ่งด้วยการร่วมงานกับนักบาสเกตบอลในตำนานอย่าง ไมเคิล จอร์แดน โดดยผลิตที่ได้รับความนิยมและโด่งดังในครั้งนั้นชื่อว่า “Jordan”          1997 ไนกี้ประสบผลสำเร็จในด้านการออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า “M.J.” ก่อนที่จะแตกออกมาเป็นหลาย ๆ ชื่อด้วยกันทั้ง “12 Star products” ซึ่งยังคงรวมไมเคิล จอร์แดนในฐานะผู้ร่วมแข่งขันอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังประสบผลสำเร็จในด้านแคมเปญที่ชื่อว่า Just Do it. ซึ่งส่งผลมายังปัจจุบันนี้
          ปัจจุบันบริษัท ไนกี้ มีพนักงานอยู่ทั่วโลกประมาณ 23000 คน และมีสำนักงานอยู่เพียงแค่ 2 แห่งเท่านั้น ได้แก่เมืองโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยกีฬาที่ทางบริษัทไนกี้ให้การสนับสนุนและเป็นสปอนเซอร์อยู่นั้นได้แก่ บาสเกตบอล เบสบอล อเมริกันฟุตบอล เทนนิส และยังมีอื่นอีก ๆ มากมาย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://adjustive.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น